- โปรแกรมฟรี EaseUS
- Data Recovery Wizard Free
- Todo Backup Free
- Partition Master Free
updated on Jul 02, 2025 to การกู้คืนโฟลเดอร์
ในบางครั้ง เมื่อไดรฟ์ C เริ่มเต็ม ผู้ใช้มักจะลบไฟล์ขนาดใหญ่ในไดรฟ์ C เพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างในดิสก์ อย่างไรก็ตาม บางรายอาจเข้าใจผิดทำให้ลบไฟล์ผิด เช่น โปรไฟล์ผู้ใช้ - โฟลเดอร์ที่บันทึกไว้ และไฟล์ที่อยู่ใน C:/User
ด้วยเหตุนี้ เมื่อคุณเปิดเครื่องเข้าสู่ Windows 10 คุณจะไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้ระบบได้ เนื่องจากไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีผู้ใช้ของคุณถูกลบไปแล้ว ในการแก้ไขปัญหานี้ คุณจะต้องสร้างบัญชีผู้ใช้ใหม่ แล้วเชื่อมต่อเข้ากับไฟล์ที่กู้คืนมาจากการถูกลบ ซึ่งคุณสามารถเรียนรู้วิธีการที่ให้ไว้ในบทความนี้ เพื่อนำโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ถูกลบกลับมาอย่างมีประสิทธิภาพ
ฉันจะกู้คืนโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ถูกลบบน Windows 10/11 ได้อย่างไร
"สวัสดีทุกคน คุณรู้วิธีกู้คืนโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ถูกลบบน Windows 10 ไหม? แม่ของฉันลบโปรไฟล์ผู้ใช้ของฉันโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ไฟล์รูปภาพ, โฟลเดอร์เอกสารทั้งหมดหายไปจากคอมพิวเตอร์
ฉันไม่ได้สร้างข้อมูลสำรองบน Windows 10 ไว้ก่อน ฉันจะกู้คืนโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ถูกลบ พร้อมกับไฟล์ที่สูญหายทั้งหมดบน Windows 10 ได้อย่างไร? หากคุณมีวิธีแก้ปัญหา โปรดแนะนำฉันด้วย ขอบคุณมาก"
การสูญเสียโปรไฟล์ผู้ใช้อาจทำให้เกิดปัญหาการสูญหายของไฟล์ และการตั้งค่าส่วนบุคคลไปด้วย จากข้อผิดพลาดบน Windows PC ปัญหานี้ยังคงรบกวนผู้ใช้ Windows 10 จำนวนมาก หากคุณมีปัญหาคล้ายกันบน Windows 10/8/7 ไม่ต้องตกใจ
ด้านล่างนี้ คุณจะพบ 3 วิธีที่แสดงไว้ในส่วนที่ 1 เพื่อกู้คืนโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ถูกลบได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอีก 2 วิธีในส่วนที่ 2 เพื่อสำรองและปกป้องโปรไฟล์ผู้ใช้บน Windows 10/8/7 อย่างง่ายดาย
ส่วนที่ 1. กู้คืนโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ถูกลบบน Windows 10/11
บันทึก: แนวทางที่ให้ไว้ในส่วนนี้อาจใช้งานได้กับผู้ใช้ Windows 8 และ Windows 7 เพื่อนำโปรไฟล์ผู้ใช้ที่หายไปกลับมา มีเพียงการดำเนินการบางอย่างเท่านั้นที่อาจแตกต่างกัน
เพื่อช่วยคุณเลือกวิธีแก้ปัญหาในการนำโปรไฟล์ผู้ใช้ที่หายไปกลับมา วิธีการที่ให้ไว้ทั้งหมดจะแสดงรายการจากง่ายไปยาก มาเริ่มกระบวนการกู้คืนโปรไฟล์ผู้ใช้ในตอนนี้
ก่อนที่คุณจะเริ่ม: บู๊ต Windows 10 เข้า Safe mode
หากคุณมีปัญหาที่ไม่สามารถลงชื่อเข้าสู่ระบบ Windows 10 หลังจากลบโปรไฟล์ผู้ใช้ ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อ บู๊ต Windows 10 เข้า Safe mode ก่อน
- 1. รีบู๊ตคอมพิวเตอร์ ที่หน้าจอลงชื่อเข้าใช้ ให้กดปุ่ม Shift ค้างไว้แล้วคลิก "Power" จากนั้นเลือก "Restart"
- 2. คุณจะเห็นหน้าจอตัวเลือก ให้เลือก Troubleshoot > Advanced options > Startup Settings > Restart
- 3. กด F4 เมื่อคอมพิวเตอร์กำลังบู๊ต เพื่อเข้าไปใน Safe mode
เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้น ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อกู้คืนไฟล์ข้อมูลผู้ใช้ที่ถูกลบกลับมา
- วิธีที่ 1. กู้คืนไฟล์จากโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ถูกลบ และสร้างโปรไฟล์ใหม่
- วิธีที่ 2. กู้คืนโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ถูกลบบน Windows 10 แบบ Manual
- วิธีที่ 3. คืนค่าระบบและนำโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ถูกลบกลับมา
วิธีที่ 1. กู้คืนไฟล์จากโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ถูกลบ และสร้างโปรไฟล์ใหม่
วิธีที่ตรงที่สุดในการแก้ไขปัญหานี้คือการกู้คืนเอกสารและโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ถูกลบ จากนั้นสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้ใหม่บน Windows 10 ทำตามขั้นตอนด้านล่างและนำไฟล์ที่สูญหายกลับมาทันที:
1. กู้คืนไฟล์และโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ถูกลบทั้งหมดด้วยซอฟต์แวร์กู้คืนไฟล์
ด้วยความเป็นมืออาชีพของ ซอฟต์แวร์กู้คืนไฟล์ สามารถสแกนและกู้คืนเอกสารและโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ถูกลบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่นี่ เราขอแนะนำให้คุณลองใช้ EaseUS Data Recovery Wizard ที่จะทำให้กระบวนการกู้คืนไฟล์ทั้งหมดง่ายขึ้นใน 3 ขั้นตอนเท่านั้น:
EaseUS ซอฟต์แวร์กู้คืนข้อมูลที่ถูกลบ
- กู้คืนไฟล์ที่สูญหายหรือถูกลบ, เอกสาร, รูปภาพ, เสียง, เพลง, อีเมลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- กู้คืนข้อมูลใด ๆ ที่แสดงผลในระหว่างกระบวนการสแกน
- รองรับการกู้คืนข้อมูลจากการลบอย่างกะทันหัน การฟอร์แมต ความเสียหายของฮาร์ดไดรฟ์ การโจมตีของไวรัส ระบบล่มภายใต้สถานการณ์ต่างๆ
下载按钮1
1.ดาวน์โหลดและติดตั้ง EaseUS Data Recovery Wizard บนคอมพิวเตอร์ของคุณ
2.ใช้เครื่องมือกู้คืนข้อมูลเพื่อค้นหาและกู้คืนข้อมูลที่สูญหายของคุณ. เลือกตำแหน่งจัดเก็บหรือโฟลเดอร์เฉพาะที่ข้อมูลของคุณสูญหาย จากนั้นคลิกปุ่ม Scan
3. เมื่อการสแกนเสร็จสมบูรณ์ จะสามารถค้นหาไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่กู้คืนได้จากรายการผลการสแกน เลือกไฟล์จากนั้นคลิกปุ่มกู้คืน เมื่อเลือกตำแหน่งที่จะบันทึกข้อมูลที่กู้คืน คุณไม่ควรใช้ไดรฟ์เดิม
โปรดทราบ: หลังจากกู้คืนไฟล์แล้ว ให้บันทึกโปรไฟล์ผู้ใช้บนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก และดำเนินการตามวิธีการต่อไปนี้
2. เปิดใช้งานด้วยบัญชีผู้ดูแลระบบ เพื่อสร้างบัญชีผู้ใช้ใหม่
ขั้นตอนที่ 1. คลิกขวาที่ไอคอน Start หรือ Windows เลือก "Search" แล้วพิมพ์: command prompt เลือก Command Prompt (Admin)
ขั้นตอนที่ 2. พิมพ์: net user administrator /active: yes และกด Enter
โปรดทราบ: คุณสามารถเปลี่ยน "yes" เป็น "no" เมื่อคุณต้องการย้อนกลับไปตามเดิมในภายหลัง โดยเรียกใช้คำสั่งเดียวกัน
การทำเช่นนี้ จะเป็นการเปิดใช้งานด้วยบัญชีผู้ดูแลระบบที่ซ่อนอยู่ในคอมพิวเตอร์ของคุณ หลังจากนี้ ให้รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ และคุณสามารถสร้างบัญชีใหม่ได้
3. Create a New Account - บัญชีผู้ใช้ใหม่
ขั้นตอนที่ 1. ไปที่ Settings > Accounts > Family & other users
ขั้นตอนที่ 2. คลิก "Add someone else to this PC" และปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อดำเนินการให้เสร็จสิ้น
โปรดทราบ: หากคุณต้องการสร้างบัญชีผู้ใช้ไว้ในเครื่องแทนบัญชีออนไลน์ของ Microsoft ให้คลิก "I don't have this person's sign-in information" > แล้วเลือก "Add a user without a Microsoft account"
4. แทนที่โปรไฟล์ของบัญชีผู้ใช้ใหม่ด้วยข้อมูลของโปรไฟล์ผู้ใช้เก่าที่กู้คืน
ตอนนี้ คุณสามารถคัดลอกไฟล์เอกสารจากโปรไฟล์ผู้ใช้เก่าที่กู้คืนมา และนำไปวางไว้ยังโปรไฟล์บัญชีใหม่ของคุณได้
ขั้นตอนที่ 1. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ และลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีผู้ดูแลระบบ
ขั้นตอนที่ 2. กดปุ่ม Windows + R เพื่อเปิด Run แล้วพิมพ์: C:/Users และกด Enter
ขั้นตอนที่ 3. คัดลอกและวางโปรไฟล์ผู้ใช้ที่กู้คืนทั้งหมดลงในโปรไฟล์ใหม่
โปรดทราบ: เราขอแนะนำให้คุณทำทีละไฟล์สำหรับแต่ละโฟลเดอร์ ในกรณีที่คุณบังเอิญพบไฟล์ระบบที่ซ่อนอยู่และมีปัญหา
หลังจากแทนที่ไฟล์ในบัญชีผู้ใช้ใหม่ได้แล้ว คุณสามารถรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดมีผล การทำเช่นนี้จะทำให้คุณสามารถใช้ข้อมูลโปรไฟล์ผู้ใช้เดิมกับบัญชีใหม่ได้อีกครั้ง
วิธีที่ 2. กู้คืนโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ถูกลบบน Windows 10 แบบ Manual
อีกวิธีหนึ่งที่ทำให้โปรไฟล์ผู้ใช้ที่สูญหายกลับคืนมาคือ การใช้ Registry Editor นี่คือขั้นตอนในการใช้วิธีนี้:
1. ค้นหา SID
ขั้นตอนที่ 1. เปิด Command Prompt โดยคลิกขวาที่ไอคอน Start หรือ Windows > คลิก Search > Type: command prompt แล้วกด Enter
ขั้นตอนที่ 2. พิมพ์: whoami /user และกด Enter
คำสั่งนี้สอบถามระบบไปยัง SID ของบัญชีปัจจุบัน
2. แก้ไข Registry
ขั้นตอนที่ 1. พิมพ์: regedit ลงในช่องการค้นหาและกด Enter > คลิก "Yes" เพื่อเปิด Registry Editor
ขั้นตอนที่ 2. ไปที่เส้นทางด้านล่างเพื่อค้นหารายการโปรไฟล์ผู้ใช้ของคุณ:
HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Windows NT\CurrentVersion\ProfileList
โดยปกติ SID จะแสดงสองครั้ง - มี/ไม่มีนามสกุลไฟล์ .BAK:
- SID listed with a .BAK extension, such as: S-1-5-21-2795999757-2048908912-3492586281-1000.bak
- SID listed without a .BAK extension, such as: S-1-5-21-2795999757-2048908912-3492586281-1000
ทำตามหนึ่งในตัวเลือกด้านล่างเพื่อเสร็จสิ้นกระบวนการกู้คืนโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ถูกลบ:
- ตัวเลือก 1. ลบโฟลเดอร์ที่ซ้ำกัน
หาก SID แสดงสองครั้ง ให้ลบโฟลเดอร์ที่ไม่มี .BAKเป็นนามสกุล:
1. คลิกขวาที่โฟลเดอร์จากบานหน้าต่างด้านซ้ายแล้วคลิก "Delete"
2. คลิก "Yest" เพื่อยืนยัน
- ตัวเลือก 2. เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ .BAK :
- 1. คลิกขวาที่โฟลเดอร์ที่ตรงกับ SID ของคุณด้วยนามสกุล .BAK แล้วคลิก "Rename"
- 2. ลบ .BAK ที่อยู่ต่อท้าย และกด Enter เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด
- ตัวเลือก 3. ปรับเส้นทางโฟลเดอร์และสถานะ
- 1. คลิกโฟลเดอร์ในบานหน้าต่างด้านซ้ายที่ตรงกับ SID ของคุณ
- 2. ค้นหาและดับเบิลคลิก ProfileImagePath ป้อนเส้นทางที่ถูกต้องสำหรับโปรไฟล์ผู้ใช้ของคุณใน Value Data
โปรดทราบ: หากคุณไม่แน่ใจว่าโปรไฟล์ผู้ใช้ของคุณอยู่ที่ไหน ให้กด Win + R ป้อนข้อมูล: C:\Users แล้วกด Enter จากนั้น คุณจะเห็นเส้นทางที่ถูกต้องของโปรไฟล์ผู้ใช้ของคุณ - 3. คลิก "OK" เมื่อคุณเขียนข้อมูลที่ถูกต้องแล้ว
- 4. ดับเบิลคลิก "State" ที่บานหน้าต่าง Registry ด้านขวา, เปลี่ยนค่าเป็น "0" แล้วคลิก "OK" เพื่อยืนยัน
สุดท้าย ปิด Registry Editor, รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ และลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีผู้ใช้ของคุณอีกครั้ง ตอนนี้ทุกสิ่งที่คุณลบไปจะกลับมาทั้งหมดและคุณสามารถนำมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง
วิธีที่ 3. ทำการคืนค่าระบบและนำโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ถูกลบกลับมา
สำคัญ: จุดคืนค่าระบบจะบันทึกทุกอย่างของคอมพิวเตอร์ รวมถึงสถานะระบบและไฟล์ที่บันทึกไว้ ซึ่งรวมถึงโปรไฟล์ผู้ใช้ โปรแกรมที่ติดตั้ง ฯลฯ
การดำเนินการคืนค่าระบบ จะเป็นการย้อนระบบของคุณกลับไปยังจุดคืนค่าซึ่งเป็นสถานะก่อนหน้า แน่นอนว่าสิ่งนี้จะนำเอกสารโปรไฟล์ผู้ใช้ที่หายไปของคุณกลับมา
ขั้นตอนที่ 1. คลิกขวาที่ไอคอน Windows แล้วเลือก "Search"
ขั้นตอนที่ 2. พิมพ์: create a restore point และคลิกที่ผลลัพธ์ด้านบนสุดเพื่อเปิด "System Properties"
ขั้นตอนที่ 3. คลิกปุ่ม System Restore ใต้ส่วน System Protection เพื่อแสดงจุดคืนค่าทั้งหมดที่คุณสร้างขึ้น
ขั้นตอนที่ 4. คลิก "Next" และเลือกจุดคืนค่าที่คุณต้องการในการคืนค่าคอมพิวเตอร์ของคุณ
ขั้นตอนที่ 5. คลิก "Finish" เพื่อยืนยันการคืนค่าระบบจากจุดที่เลือก และคลิก "Yes" เพื่อดำเนินการคืนค่าระบบบนคอมพิวเตอร์
รอให้กระบวนการเสร็จสิ้น จากนั้นรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ เข้าสู่ระบบด้วยบัญชีผู้ใช้เดิมของคุณ แล้วคุณจะสามารถใช้เอกสารของโปรไฟล์ผู้ใช้ได้อีก
ส่วนที่ 2. เคล็ดลับในการปกป้องโปรไฟล์ผู้ใช้และระบบ
ในส่วนที่ 1 ประกอบด้วยวิธีการที่ครอบคลุมเพื่อช่วยให้คุณสามารถนำเอกสารและโปรไฟล์ผู้ใช้ที่สูญหายทั้งหมดกลับมา อย่างไรก็ตาม คุณรู้หรือไม่ว่ามีวิธีที่ง่ายกว่าและดีกว่าในการป้องกันปัญหาเหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้น?
เราได้กล่าวถึงเคล็ดลับที่เป็นประโยชน์หลายประการที่สามารถช่วยคุณปกป้องโปรไฟล์ผู้ใช้ รวมถึงการปกป้องระบบ Windows ปฏิบัติตามเพื่อเรียนรู้วิธีปกป้องไฟล์ที่มีค่าและระบบ Windows ของคุณ:
- 1. คัดลอกโปรไฟล์ผู้ใช้พร้อมประวัติไฟล์
Fil History บน Windows 10 สามารถช่วยคุณคัดลอกแต่ละไฟล์และบันทึกเป็นไฟล์สำรองไว้ได้ คุณสามารถใช้คุณสมบัตินี้เพื่อเลือกสำรองข้อมูลโปรไฟล์ผู้ใช้ของคุณ
- 2. ใช้ซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลบน Windows - EaseUS Todo Backup
ซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลนี้ ช่วยให้คุณสามารถเลือกสำรองข้อมูลจากโฟลเดอร์ของโปรไฟล์ผู้ใช้ หรือ ระบบ Windows ทั้งหมดได้ภายใน 3 ขั้นตอนเท่านั้น สิ่งที่คุณต้องทำก็คือตัดสินใจว่าคุณต้องการปกป้องอะไร
ขั้นตอนที่ 1. คลิก "Select backup contents" และเลือกโหมดในการสำรองข้อมูลระหว่าง "File", "Disk", "OS" หรือ "Mail" เพื่อเริ่มการสำรองข้อมูล

ขั้นตอนที่ 2. เลือกไฟล์, โฟลเดอร์, ฮาร์ดดิสก์ หรือ พาร์ทิชั่นที่คุณต้องการสำรองข้อมูล และคลิก "OK"

ขั้นตอนที่ 3. ทำตามคำแนะนำที่แสดงบนจอ เลือกปลายทางที่คุณต้องการจะบันทึกไฟล์สำรองข้อมูล คลิก "Backup Now" และเมื่องานสำรองข้อมูลเสร็จสิ้น จะแสดงให้เห็นทางด้านซ้ายในรูปแบบการ์ด

* ในกรณีที่ต้องการตั้งกำหนดเวลาในการสำรองข้อมูล, คลิก "Option" เพือเข้ารหัสการสำรองข้อมูลด้วยรหัสผ่านใน "Backup Options", ตั้งกำหนดเวลาในการสำรองข้อมูล และระบุเงื่อนไขเหตุการณ์ที่จะให้การสำรองข้อมูลทำงานได้ใน "Backup Scheme" ยังมีอีกหลายตัวเลือกที่คุณสามารถเปิดเข้าไปดู, ปรับแต่งวิธีการสำรองข้อมูลได้ตามที่คุณต้องการ

- 3. สร้างจุดคืนค่าระบบ Windows
ในการดำเนินการดังกล่าว คุณต้องเปิดใช้งาน System Protection ก่อน โดยไปที่ System Properties > คลิกที่ System Protection > แล้วเลือก System C: drive and clicking "Configure" > และคลิก "Enable".
จากนั้น ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อเรียกดูไดรฟ์ที่มีขนาดใหญ่พอที่จะสร้างและบันทึกจุดคืนค่าระบบ Windows
บทความที่เกี่ยวข้อง
-
วิธีซ่อมไฟล์ที่เสียหายหลังจากการกู้คืน
/2025-07-02
-
วิธีการกู้คืนประวัติการเข้าเว็บของ Google Chrome บน Windows 10/Android/iPhone
/2025-07-02
-
ไฟล์ Excel ของฉันหายไป! กู้คืนไฟล์ Excel ที่หายไป 2016/2013/2010/2007
Daisy/2024-09-26
-
การดาวน์โหลดไม่ปรากฏในโฟลเดอร์ดาวน์โหลด/เดสก์ท็อป
Daisy/2024-09-29
EaseUS Data Recovery Wizard
กู้คืนข้อมูลที่ถูกลบได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมกู้คืนข้อมูลจากฮาร์ดไดรฟ์ (hard drives) ที่เสียหายหรือถูกฟอร์แมต (format)
ดาวน์โหลดสำหรับ PCดาวน์โหลดสำหรับ Mac