[แก้ไขแล้ว] แอปนี้ไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง (0xc000007b)

Suchat updated on Jan 20, 2022 to โปรแกรมสำรองข้อมูล

รหัสข้อผิดพลาด 0xc000007b คืออะไร

หากคุณเห็นข้อผิดพลาด "แอปไม่สามารถเริ่มทำงานได้อย่างถูกต้อง (0xc000007b)" ใน Windows 7/8/10 แสดงว่าคุณมาถูกที่แล้ว ข้อผิดพลาดของแอป 0xc000007b เป็นเรื่องปกติมากและผู้ใช้อาจพบเป็นประจำเมื่อเทียบกับข้อผิดพลาดอื่นๆ เช่น 0x80070002, 0x80070057, 0x80004005 หรือ 0x80070005. โดยทั่วไปคุณจะเห็นข้อผิดพลาดนี้เ มื่อมีการผสมระหว่าง Windows และแอปรุ่น 32-บิตและ 64-บิต คุณอาจพบปัญหานี้เมื่อคุณพยายามเรียกใช้เกมหรือโปรแกรม

แอปพลิเคชันนี้ไม่สามารถเริ่มทำงานได้อย่างถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม ข้อผิดพลาดนี้ไม่ได้หมายความว่าอยู่นอกเหนือการซ่อมแซม หรือการสิ้นสุดของซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้อง ด้านล่างนี้เป็นวิธีการต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวิธีง่ายๆ, สามารถใช้เพื่อลองแก้ไขข้อผิดพลาด 0xc000007b คุณอาจต้องการเพียงอันเดียว, แต่ในบางกรณีคุณจะต้องใช้ผสมกัน

วิธีการด่วน: แก้ไขข้อผิดพลาด "แอปไม่สามารถเริ่มต้นได้อย่างถูกต้อง"

ไม่มีวิธีแก้ไขที่กำหนดไว้ เพื่อจัดการกับข้อผิดพลาดของแอปนี้ ในหลายๆ กรณีคุณอาจต้องการการแก้ไขมากกว่าหนึ่งครั้ง ดังนั้นคุณต้องลองแก้ไขทีละรายการ หากการแก้ไขครั้งแรกไม่ได้ผลสำหรับคุณ

วิธีที่ 1. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ

สิ่งแรกที่ต้องลองคือรีสตาร์ท Windows ฟังดูดีเกินจริง, แต่บางครั้งก็ให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า

วิธีที่ 2. ติดตั้งแอปใหม่

นอกจากนี้คุณยังสามารถลองติดตั้งเกมหรือโปรแกรมที่พยายามเปิดอีกครั้ง- วิธีการง่ายๆ แต่บางครั้งก็มีประสิทธิภาพมาก

วิธีที่ 3. อัปเดต .NET Framework

ในกรณีส่วนใหญ่ เป็นกรอบงาน Microsoft .NET ที่ทำให้เกิดปัญหา คุณสามารถดาวน์โหลด. NET Framework รุ่นล่าสุด ได้จาก Microsoft

วิธีที่ 4. อัปเดต Windows ของคุณ

การอัปเดตระบบปฏิบัติการของคุณสามารถแก้ไขข้อบกพร่องที่ทำให้เกิดปัญหาได้ นอกจากนี้คุณสมบัติและโปรแกรมบางอย่างใน Windows เช่น DirectX และ. NET Framework ยังสามารถอัปเดตได้ในระหว่างกระบวนการ ขอแนะนำให้คุณอัปเดตระบบปฏิบัติการของคุณและดูว่าสิ่งนี้สามารถช่วยคุณแก้ไขข้อผิดพลาด 0xc000007b ของคุณได้หรือไม่

เมื่อติดตั้ง (หรือติดตั้งใหม่) ให้รีบูตและลองใช้แอปหรือเกมของคุณอีกครั้ง

วิธีขั้นสูง: แก้ไขรหัสข้อผิดพลาด 0xc000007b ใน Windows 7/8/10

หากการแก้ไขด่วนไม่ค่อยช่วยอะไร, คุณควรปฏิบัติตามแนวทางแก้ไขปัญหาขั้นสูง เพื่อให้แอปเริ่มต้นอย่างถูกต้อง

วิธีที่1. ทำงานในโหมดความเข้ากันได้

การเรียกใช้แอปในโหมดความเข้ากันได้ดูเหมือนจะแก้การไขปัญหาสำหรับผู้ใช้จำนวนมาก เมื่อคุณพบข้อผิดพลาด 0xc000007b สามารถลองเรียกใช้แอปของคุณในโหมดความเข้ากันได้แ ละดูว่ามันช่วยได้หรือไม่

1. คลิกขวาที่ไอคอนแอป แล้วเลือก "คุณสมบัติ"

2. คลิกแท็บความเข้ากันได้ คลิก "เรียกใช้ตัวแก้ไขปัญหาความเข้ากันได้" เลือก "เรียกใช้โปรแกรมนี้ในฐานะผู้ดูแล" ลองใช้การตั้งค่าที่แนะนำ จากนั้นกด "ตกลง"

ทำงานในโหมดความเข้ากันได้เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดของคุณ

ลองใช้การตั้งค่าที่แนะนำ

3. ลองเรียกใช้แอปของคุณ และดูว่าวิธีนี้สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดได้หรือไม่

วิธีที่ 2. อัปเกรด Windows 10 จาก 32 บิตเป็น 64 บิต

โดยเฉพาะเมื่อคุณกำลังพยายามเริ่มแอปที่ออกแบบมาให้ทำงานบนระบบปฏิบัติการ 64-บิต แต่คอมพิวเตอร์ของคุณใช้ Windows 32-บิต แอป 32-บิตไม่สามารถโหลด DLL-64 บิตได้, ดังนั้นการผสม 32-บิตเข้ากับสภาพแวดล้อม 64-บิตจะทำให้เกิดปัญหา ดังนั้น ทางเลือกที่ดีคือ การอัปเกรด Windows 10 จาก 32 บิตเป็น 64 บิต.

ก่อนที่คุณจะอัปเกรดเป็น 64-บิต, คุณต้องสำรองไฟล์สำคัญทั้งหมดของคุณด้วยโปรแกรมสำรองข้อมูลที่มีประโยชน์ EaseUS Todo Backup ช่วยให้ผู้ใช้ Windows ทุกคนสามารถสำรองข้อมูลภายใต้ Windows 10/8/7 เป็นต้น ด้วยการคลิกง่ายๆ ก็สามารถสำรองข้อมูลทุกอย่างที่คุณต้องการ

ดาวน์โหลดฟรี

รองรับ Windows 11/10/8/7

ขั้นตอนที่ 1. คลิก "Select backup contents" และเลือกโหมดในการสำรองข้อมูลระหว่าง "File", "Disk", "OS" หรือ "Mail" เพื่อเริ่มการสำรองข้อมูล

backup files step 1

ขั้นตอนที่ 2. เลือกไฟล์, โฟลเดอร์, ฮาร์ดดิสก์ หรือ พาร์ทิชั่นที่คุณต้องการสำรองข้อมูล และคลิก "OK"

backup files step 2

ขั้นตอนที่ 3. ทำตามคำแนะนำที่แสดงบนจอ เลือกปลายทางที่คุณต้องการจะบันทึกไฟล์สำรองข้อมูล คลิก "Backup Now" และเมื่องานสำรองข้อมูลเสร็จสิ้น จะแสดงให้เห็นทางด้านซ้ายในรูปแบบการ์ด

backup files step3

* ในกรณีที่ต้องการตั้งกำหนดเวลาในการสำรองข้อมูล, คลิก "Option" เพือเข้ารหัสการสำรองข้อมูลด้วยรหัสผ่านใน "Backup Options", ตั้งกำหนดเวลาในการสำรองข้อมูล และระบุเงื่อนไขเหตุการณ์ที่จะให้การสำรองข้อมูลทำงานได้ใน "Backup Scheme" ยังมีอีกหลายตัวเลือกที่คุณสามารถเปิดเข้าไปดู, ปรับแต่งวิธีการสำรองข้อมูลได้ตามที่คุณต้องการ

backup options

วิธีที่ 3. เปลี่ยนค่าของ LoadAppinit_dlls Key

เนื่องจากปัญหาเกิดจาก DLL ที่ไม่ได้ลงทะเบียนหรือเสียหาย, เราสามารถใช้ Reget.exe เพื่อแก้ปัญหานี้ได้ เราสามารถเปลี่ยนค่าของ LoadAppinit_dlls key เป็น 0 โดยพื้นฐานแล้ว LoadAppInit_dll เป็นกลไกที่เริ่ม DLLs ใน reg-key เมื่อโปรแกรมเริ่มทำงาน ดังนั้นการเปลี่ยนค่าเป็น 0 อาจช่วยแก้ปัญหาได้

1. กดปุ่ม Windows+R

2. พิมพ์ regedit.exe แล้วกด Enter

พิมพ์ regedit.exe แล้วเปิด it

3.ไปที่เส้นทางHKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Windows NT\CurrentVersion\Windows.

4. บเบิลคลิก "LoadAppInit_Dll". เปลี่ยนข้อมูลค่าเป็น 0 แล้วคลิก "ตกลง"

5. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ

วิธีที่4. ตรวจสอบดิสก์เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด

ปัญหาฮาร์ดไดรฟ์มักก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ และการตรวจสอบฮาร์ดไดรฟ์สามารถขจัดปัญหาเหล่านี้ได้ คุณสามารถทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อตรวจสอบข้อผิดพลาดในฮาร์ดดิสก์

1. คลิกเมนู Start แล้วพิมพ์ cmd คลิกขวาที่ พร้อมท์คำสั่งในผลลัพธ์และเลือก เรียกใช้ในฐานะผู้ดูแล

2. พิมพ์ chkdsk c: /f /r ใน พร้อมท์คำสั่งแล้วกดปุ่ม Enter ซึ่งหมายความว่าคุณกำลังจะตรวจสอบและซ่อมแซมไดรฟ์ C หากคุณต้องการตรวจสอบไดรฟ์อื่น, ให้แทนที่ c ด้วยตัวอักษรที่เกี่ยวข้องของไดรฟ์นั้น

ตรวจสอบดิสก์เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดของคุณ

3. หาก Windows ของคุณติดตั้งไว้ในไดรฟ์ C, คุณจะได้รับข้อความ "Chkdsk ไม่สามารถทำงานได้ เนื่องจากมีการใช้งานไดรฟ์ข้อมูลโดยกระบวนการอื่น คุณต้องการกำหนดเวลาให้ตรวจสอบไดรฟ์ข้อมูลนี้ในครั้งถัดไปที่ระบบรีสตาร์ทหรือไม่ (Y/N) " พิมพ์ Y แล้วกดปุ่ม Enter

4. หลังจากนั้นตรวจสอบและดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่

หากคุณไม่มีความรู้ทางเทคนิคและต้องการลดความเสี่ยงของข้อมูล, การใช้ซอฟต์แวร์ของบริษัทอื่นอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า บรรทัดคำสั่งเหมาะสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ เนื่องจากคำสั่งที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดปัญหารุนแรงได้ ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณลองใช้ทางเลือกบรรทัดคำสั่งอัตโนมัติ

EaseUS Tools M เป็นเครื่องมือซ่อมคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานได้จริง ซึ่งปลอดภัยและน้ำหนักเบา เป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้คำสั่ง CHKDSK ใช้เครื่องมือคลิกเดียวนี้เพื่อแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ของคุณ

วิธีแก้ไขข้อผิดพลาดของระบบไฟล์หรือข้อผิดพลาดของดิสก์:

ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อแสดงไฟล์ที่ถูกซ่อนในคลิกเดียว

ขั้นตอนที่ 1. Download EaseUS CleanGenius ฟรี

ขั้นตอนที่ 2. เปิด EaseUS CleanGenius เลือก “File Showing”(แสดงไฟล์) แล้วเลือกไดรฟ์ที่ต้องการสแกน

แสดงไฟล์ที่ซ่อน - ขั้นตอนที่ 2

ขั้นตอนที่ 3. เมื่อการสแกนเสร็จสิ้น กด View (มุมมอง)เพื่อตรวจสอบไฟล์ที่หายไป

แสดงไฟล์ที่ซ่อน - ขั้นตอนที่3

หากคุณยังคงมีปัญหา, อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากเรา!

EaseUS Todo Backup

โปรแกรมอัจฉริยะสำหรับสำรองไฟล์และคอมพิวเตอร์ของคุณบน Windows 10/8/7.

ดาวน์โหลดฟรี